โทไค มิวสิค (กรุงเทพ) TOKAI MUSIC ร้านขายเครื่องดนตรีมือสอง ของแท้ นำเข้า คัดคุณภาพ ประกัน 1 เดือน

บทความ

D4 กับ R-8mkII

12-04-2557 12:39:04น.

(นี่ก็เป็นกระทู้เก่าๆที่มีประโยชน์ครับ คือกระทู้ก็เลื่อนตกไปตามกาลเวลา เราขอนำมาลงให้เกิดประยชน์ครับ เป็นการถามตอบระหว่าง คุณ แคมเมอร์ และคุณวิริยะ)

Q:ระหว่าง D4 กับ R8MK2 ถ้าใช้กับคาราโอะเพลงลูกทุ่งอันไหนเหมาะกว่ากัน ตระกูล R8....เห็นว่าสามารถที่จะแยกมิกซ์เสียงกลองได้ แล้วเจ้าD4ทำได้ไหมครับ

A:ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ...D4 ผมไม่เคยฟัง ส่วนR-8mkII เคยฟังจากวงอีเล็กโทน ปัจจุบันผมใช้ R-8 เพราะตอนนั้นหา R-8 mkII ไม่ได้ (อยากเปลี่ยนเป็น R-8mkII ไม่ทราบว่าทางโทไค รับเทิร์นหรือเปล่า) วัตถุประสงค์ในการใช้งานหลักระหว่าง D4 กับ R-8mkII แตกต่างกันคือ
ข้อ 1. D4 เป็นซาวด์โมดูลของกลองไฟฟ้าที่นำมาใช้แทนกลองชุดจริงนั่นคือที่ตัวโมดูลนี้จะมีรู [jack]สำหรับต่อสายไปยังอุปกรณ์[Trigger]ที่รับการตีจากไม้กลอง ตามจำนวนชิ้นกลองที่เราต้องการซึ่งจะบอกไว้ให้แล้วด้านหลังเครื่อง ถ้าเราไม่ต่อสาย Trigger ที่ว่านี้เข้ากับตัวเครื่อง เราก็ไม่สามารถทำให้เครื่องนี้มีเสียงกลองออกมาได้ นอกจากเอาสัญญาณMIDI จากภายนอกป้อนให้มันเท่านั้น
ข้อ 2. R-8mkII เป็นซาวด์โมดูลของกลองเช่นกันแต่ไม่สามารถใช้แทนกลองชุดได้โดยตรงจากการตีด้วยไม้กลอง แต่เราสามารถใช้มือเคาะที่แป้นหน้าปัทม์ได้จำนวน 16x4 ชิ้น สามารถสร้างเป็นเสียงกลองจังหวะต่างๆที่เราต้องการได้แล้วเก็บบันทึกไว้ในเครื่องหรือรอมการ์ดเมื่อเวลาจะเล่นก็โหลดออกมาเล่นร่วมกับคีย์บอร์ด แต่มันก็สามารถใช้สัญญาณMIDI ภายนอกจากเข้ามาเล่นได้เช่นกัน
...ถ้าให้ผมเลือกระหว่าง D4 กับ R-8mkII เพื่อใช้กับงานคอมพิวเตอร์คาราโอเกะ ผมขอฟันธงว่าผมเลือก R-8mkII ครับด้วยเหตุผลดังนี้
1. สามารถแยกกลองแต่ละชิ้นเข้ามิกซ์ได้
2. สามารถปรับแต่งเสียง กลองกระเดื่อง กลองทอม1-2 สแนร์ ไฮแฮท ฉาบ และเสียงอื่นๆได้ โดยการปรับค่า ความสูงต่ำของเสียง(PITCH) ความยาวของเสียง(DECAY) การปรับให้เสียงก้องหรือทึบ(NUANCE) ปรับความตึงหย่อนของหนังกลอง เป็นต้น
3. ขณะใช้งานบางช่วงที่ไม่มีเสียงเพลงเราสามารถใช้มือเคาะแป้นหน้าปัทม์เป็นเสียงกลองเสริมเพื่อสร้างบรรยากาศในงานได้
4. เมื่อเล่นจนมีความเชี่ยวชาญแล้วเราสามารถใช้จังหวะใน R-8mkII เป็นตัวต่อเพลงระหว่างเพลงได้ดนตรี(เฉพาะกลอง)จะได้ไม่ขาดตอนเช่น จังหวะสามช่า เป็นต้น หรือถ้ายังไม่เก่งใช้มือเคาะเอาก็ได้ แล้วค่อยๆเรียนรู้ไป
5. การที่เครืองมีลูกเล่นให้เราปรับแต่งได้จะทำให้เราไม่เบื่อกับมันง่ายๆ ถ้าเราไม่ชอบเสียงที่เราปรับแต่งไว้ เราก็สามารถรีเซ็ตเครื่องให้เข้าสู่สถานะเดิมของโรงงานได้อยู่แล้ว
6. การที่ D4 เสียงดีกว่า R-8mkII นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ ขอให้เราใช้เครื่องเสียงที่ดีมีคุณภาพ มิกซ์เซอร์ดี อีควอไลเซอร์31แบนด์เพาเวอร์แอมป์วัตต์เต็มกำลังขับสูง ลำโพงสำคัญที่สุดต้องตอบสนองความถี่ได้ตลอดย่านโดยเฉพาะลำโพงเบสต้องขับเสียงการกระแทกของเบสและกระเดื่องได้เป็นอย่างดี(กระเดื่องแน่นเบสลึกส่งไกล)
...ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้ก็อย่าเพิ่งเชื่อผมขอให้พิจารณาด้วยการฟังด้วยหูของตัวเองอีกครั้ง ผมเองก็เสียเงินมามากเพราะความอยากของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด...วันนี้เราว่าดีแล้วแต่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีตัวใหม่เข้ามาที่ดีกว่าเดิมเราก็อยากได้อีก ไม่ต้องถามหรอกนะว่าซื้อมาแล้วแพงๆน่ะคุ้มเงินหรือเปล่าไม่คุ้มหรอก แต่ความสุขทางใจมันสุดคุ้มเอาราคามาตีค่าไม่ได้ ลองถามคนเล่นเครื่องเสียงดูสิ.

Q:ขอบคุณครับคุณวิริยะ (โทไกด้วย).....แหมต้องรบกวนคุณวิริยะอีกแล้ว... จริงๆแล้วคืองบผมน้อยนะครับ..ผมจึงต้องศึกษาให้ละเอียดมากหน่อย ปัญหามีอยู่ว่าถ้าผมใช้R-8mk2 ผมก็ต้องเปลี่ยนมิกซ์ด้วยเพราะมิกซ์ตัวเก่าผมเล็กช่องไม่พอ แต่ได้ลูกเล่นเพิ่มจากกลองมากมาย........ตรงกันข้ามถ้าเลือกD4ผมก็ประหยัดลงไปอีกเพราะใช้กับชุดเดิมได้เลย.แต่ลูกเล่นไม่มาก .ปรับแต่งได้น้อย...ตัดสินใจยากจริงๆครับ

A: เรื่องเงินมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทุกคนแหละครับ ผมเองกว่าจะซื้อของพวกนี้ได้แต่ละชิ้นใช้เวลานานเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่บ้านเขาไม่เข้าใจเราหรอกว่าเราชอบแค่ไหน เพราะออกงานที่หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเงินนิดเดียว แต่พอตอนจะซื้อของอยากได้แต่ของดีๆแพงๆ ....รวยเมื่อไหร่จะซื้อมาเล่นเสียให้เข็ด
ถ้าคุณแคมเมอร์ไม่ติดขัดเรื่องงบประมาณก็ซื้อไว้เล่นแบบธรรมดา 2 แชลแนนไปก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนมิกซ์ทีหลังเพราะมิกซ์ดีๆที่ราคาไม่แพงยังหาได้ง่ายกว่า